(FAQ) คำถามที่พบบ่อย ?
ก่อนที่เราจะเข้าสู่หัวข้อคำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการจองบริการต่าง ๆ ขอเริ่มด้วยการกล่าวถึงความสำคัญของการจองบริการในชีวิตประจำวันของเรา การจองบริการไม่ว่าจะเป็นที่พัก, บริการด้านอาหาร, หรือกิจกรรมต่าง ๆ เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้คุณสามารถวางแผนและจัดการเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเข้าใจขั้นตอนเงื่อนไขในการจองเป็นสิ่งที่สำคัญ จะช่วยลดความกังวลและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการใช้งานบริการ ดังนั้นส่วนนี้เราจะมาดูคำถามที่พบบ่อยจากผู้ใช้งานจริง พร้อมคำตอบที่ชัดเจน เพื่อช่วยให้คุณมีข้อมูลที่จำเป็นในการทำการจองอย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น
ระบบจอง BookingX คืออะไร ?
- ระบบที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจองบริการหรือสินค้าล่วงหน้าได้ เช่น การจองที่นั่งในร้านอาหาร โรงแรม จองบริการเกี่ยวกับความงามหรือการศึกษา โดยระบบนี้มักจะมีการจัดการข้อมูลการจอง เช่น วันที่ เวลา จำนวนคน และรายละเอียดอื่น ๆ เพื่อให้การบริการรวมไปถึงการจัดสรรเวลาเป็นไปอย่างราบรื่นและตรงตามความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ยังสามารถช่วยให้ธุรกิจจัดการและวางแผนการให้บริการได้ดียิ่งขึ้นด้วย
ระบบจองของเราปรับใช้กับการจองรูปแบบไหนได้บ้าง ?
- ระบบจองของเราพัฒนามาให้มีความยืดหยุ่นสามารถปรับใช้กับการจองได้หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหารที่บริการเต็มเวลา(Fulltime), หรือบริการเฉพาะช่วงเวลา (Slot time), ร้านอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ (Buffet), ร้านอาหารแบบอะลาคาร์ท (à la carte), เช่น :
1. ร้านอาหาร : สำหรับการจองโต๊ะในร้าน จองเมนูพิเศษตามเทศกาล หรือการจองคอร์สอาหาร เพื่อจัดการจำนวนลูกค้าและเวลาในการให้บริการ
2. โรงแรม : สำหรับการจองห้องพัก โดยลูกค้าสามารถเลือกประเภทห้อง วันที่ และระยะเวลาที่ต้องการเข้าพัก
3. การศึกษา : สำหรับการจองคลาสเรียน สัมนาหรือจัด Meeting โดยผู้ใช้สามารถเลือกเวลา คลาสเรียน และที่นั่งได้จากรายการที่เปิดจอง
4. บริการรถเช่า : สำหรับการจองรถเช่าช่วยให้ลูกค้าสามารถจองรถล่วงหน้า รวมถึงเลือกวันที่ เวลา และสถานที่รับส่ง
5. กิจกรรมหรือทัวร์: สำหรับการจองกิจกรรมพิเศษ เช่น ทัวร์เที่ยวชมสถานที่ หรือกิจกรรมผจญภัย
6. คลีนิก(บริการสุขภาพและความงาม) : สำหรับการจองเข้าใช้บริการสุขภาพและความงาม เช่น การนัดหมายกับหมอ หรือการจองบริการสปาและทำผม
7. คอนเสิร์ต Fan Meeting : สำหรับการจองเข้าร่วม Fan Meeting กรณีเปิดเป็นรอบสามารถเลือกวันที่ รอบ ระยะเวลาตามที่ผู้ให้บริการกำหนด
ระบบจองจะช่วยจัดการและการให้บริการมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความยุ่งยากและช่วยให้ลูกค้าได้รับบริการตามที่ต้องการ โดยรูปแบบการจองจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ให้บริการเลือกใช้ง
การจองในระบบต้องทำอย่างไร ?
- เมื่อต้องการทำการจองสามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้
1. การจองเข้าใช้บริการ
1.1 เข้าไปยังเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน Line OA เพื่อกดลิงก์การจองผ่าน Rich Menu ของบริการที่ต้องการ
1.2 เลือกวันและเวลา กรอกวันที่และเวลาที่ต้องการจอง รวมถึงจำนวนที่ต้องการ
1.3 กรอกรายละเอียดส่วนตัว : ใส่ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล หรือข้อมูลอื่น ๆ ตามที่ระบบต้องการ
1.4 ยืนยันการจอง : ตรวจสอบข้อมูลที่กรอกและยืนยันการจอง และข้อมูลเกี่ยวกับเงื่อนไขการจอง
2. การชำระเงิน
2.1 หากระบบต้องการการชำระเงินล่วงหน้า ให้ดำเนินการตามขั้นตอนและเลือกช่องทางการชำระเงินที่ระบุ โดยระบบเรารองรับการชำระเงินผ่าน
Mobile Banking (Mobile App) : ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB Easy), ธนาคารกรุงเทพ(Bualuang M), ธนาคารกรุงไทย(KMA), ธนาคารกสิกรไทย(K Plus)
หรือ Payment Gateway , Credit/Debit Card
2.2 รับการยืนยัน : หลังจากชำระเงินและยันยืนการจองสำเร็จ ระบบจะส่งอีเมลหรือข้อความยืนยันการจองผ่านแชท Line OA ไปยังผู้ใช้ เพื่อให้มั่นใจว่าการจองเสร็จสมบูรณ์
3. แสดงหลักฐานการจอง
3.1 ในวันที่เข้าใช้บริการ ควรมีการแสดงหลักฐานการจอง เช่น อีเมลยืนยัน หรือหมายเลขการจอง เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือพนักงานตรวจสอบได้
หมายเหตุ : หากมีข้อสงสัยหรือปัญหาในขั้นตอนใด ควรติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของระบบทันที
รูปแบบการจองที่มีการชำระเงิน
- การจองที่มีการชำระเงิน สามารถกำหนดได้ในระบบหลังบ้านทำได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความต้องการของธุรกิจหรือบริการของคุณ ตัวอย่างวิธีการจัดการการจองที่มีการชำระเงิน เช่น การเก็บมัดจำ, การจองเฉพาะวัน หรือการจองรายการสินค้า (Option)
1. การจองพร้อมมัดจำ
1.1 กำหนดจำนวนเงินมัดจำที่ลูกค้าต้องชำระเพื่อทำการจอง
1.2 กำหนดช่องทางให้ลูกค้าชำระมัดจำ ด้วยการเลือกจากช่องทางการชำระเงินที่ระบบเรารองรับดังนี้ Mobile Banking (Mobile App) : ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB Easy), ธนาคารกรุงเทพ(Bualuang M), ธนาคารกรุงไทย(KMA), ธนาคารกสิกรไทย(K Plus) หรือ Payment Gateway , Credit/Debit Card
1.3 แสดงรายละเอียดการชำระเงินในระบบหลังบ้าน เพื่อให้ผู้ดูแลสามารถตรวจสอบสถานะการชำระเงินได้
2. การจองเฉพาะวัน
2.1 ลูกค้าสามารถเลือกวันที่ต้องการจอง และระบบจะแสดงวันที่ว่างให้เลือก
2.2 กำหนดจำนวนเงินที่ต้องชำระในวันจอง
2.3 ระบบแจ้งเตือนผู้ดูแลเมื่อมีการจองเข้ามาในวันนั้น ๆ เพื่อให้สามารถเตรียมการล่วงหน้าได้
3. รายการสินค้า (Option)
3.1 ตัวเลือกรายการสินค้าที่ต้องการ เช่น เซ็ตอาหาร, คอร์สอาหาร, ประเภทห้องพัก, ชนิดของบริการเสริม, หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ
3.2 ระบบจะคำนวณราคาโดยรวมจากตัวเลือกที่ลูกค้าเลือก
3.3 แสดงรายละเอียดการชำระเงินที่จำเป็น เช่น จำนวนเงินมัดจำ หรือยอดที่ต้องชำระในรายการที่จอง
4. ระบบหลังบ้าน
4.1 สามารถเลือกรูปแบบการชำระเงินได้จากแดชบอร์ดการชำระเงินที่สามารถจัดการการจองทั้งหมดได้อย่างสะดวก
4.2 มีฟีเจอร์ในการตรวจสอบและจัดการการชำระเงิน โดยสามารถเห็นสถานะการชำระเงินของลูกค้าแต่ละราย
4.3 ระบบมีการส่งอีเมล หรือการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชัน Line OA ให้กับลูกค้าเพื่อยืนยันการจองและการชำระเงิน
5. การติดตามและการรายงาน
5.1 สร้างระบบติดตามการจองที่สามารถแสดงรายงานการจองและการชำระเงินได้ในรูปแบบกราฟหรือรายงานเชิงสถิติ
5.2 มีการเก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อนำไปใช้ในการทำการตลาดในอนาคต
ด้วยการวางระบบอย่างรอบคอบ จะช่วยให้การจองและการชำระเงินมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้
ต้องการยกเลิกการจองต้องทำอย่างไร ?
- การยกเลิกการจองสามารถทำได้ด้วยการตรวจสอบ หรือควรอ่านนโยบายการยกเลิกของบริการที่จองไว้ เพราะเนื่องจากแต่ละบริการอาจมีเงื่อนไขและระยะเวลาในการยกเลิกที่แตกต่างกัน ขั้นตอนของการยกเลิกในระบบการจึงจำเป็นต้องยกเลิกผ่านการติดต่อ Admin เท่านั้น! เพื่อป้องการความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับการจองโดยสามารถทำได้ดังนี้
1. ติดต่อหา Admin : เพื่อแจ้งปัญหาที่ต้องหารยกเลิกการจองของคุณของคุณ แจ้งชื่อ-สกุล หรือหมายเลขการจองเพื่อค้นหาการจองที่ต้องการยกเลิก
2. ข้อกำหนดและเงื่อนไขการยกเลิก : เมื่อ Admin ทำการตรวจสอบการจองหากการยกเลิกอยู่ในเงื่อนไขที่บริการกำหนดสามารถทำการยกเลิกได้ทันทีโดย Admin
3. ขอคืนเงิน (ถ้ามี) : หากการยกเลิกนั้นมีสิทธิ์คืนเงิน คุณอาจต้องทำการร้องขอคืนเงินตามที่ระบบกำหนด
เมื่อทำรายการจองสำเร็จ ทำไมถึงแก้ไขการจองไม่ได้
- ในกรณีที่ลูกค้าต้องการแก้ไขการจองเช่น เพิ่มจำนวน, เลื่อนวัน-เวลาการจอง ต้องติดต่อขอแก้ไขผ่าน Admin เท่านั้น! โดยระบบสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขข้อมูลด้วยตนเองเมื่อทำการจองเข้ามาแล้ว เพื่อไม่ให้กระทบกับรายการจองอื่นๆ หรืออาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการจองเกิดขึ้น
จะทราบได้อย่างไรว่าการจองสำเร็จ และสามารถเข้าใช้บริการได้
- ระบบจองจากเรามีการส่งยืนยันการจองผ่านอีเมล, SMS, หรือ Line OA เพื่อให้แน่ใจว่าการจองของคุณสำเร็จและสามารถเข้าใช้บริการได้ดังนี้
1. E-mail อีเมล : การส่งอีเมลยืนยัน ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ตรวจสอบอีเมลยืนยันการจองที่ส่งมาให้คุณ เมื่อการจองสำเร็จผ่าน
2. SMS ข้อความ : การส่ง SMS อาจมีค่าใช้จ่าย ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการที่คุณใช้และนโยบายของบริษัทที่ให้บริการจอง
3. Line OA ไลน์ : การส่งข้อความผ่านแชท Line OA หากผู้ให้บริการเลือกใช้แอปพลิเคชันสำหรับการจองผ่านลิงก์ Rich Menu
ตรวจสอบข้อความบนแอปพลิเคชัน Line หากใช้แอปพลิเคชันสำหรับการจอง ให้เข้าไปตรวจสอบในแอปว่ามีข้อมูลการจองหรือไม่ ?
กรุณาติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าหากคุณยังไม่ได้รับการยืนยัน หรือหากต้องการตรวจสอบสถานะการจอง
ทำไมทำรายการจองแล้วไม่ได้รับ Confrim การจอง
อาจมีหลายสาเหตุที่ทำให้คุณไม่ได้รับการยืนยันการจอง เช่น
1. ข้อมูลผิดพลาด : อาจมีการกรอกข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เช่น อีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์
2. ปัญหาทางเทคนิค : ระบบอาจเกิดข้อผิดพลาดหรือการล่าช้าในการประมวลผล
3. ไม่สามารถจองได้ : รายการที่จองอาจเต็มหรือไม่สามารถจองในช่วงเวลานั้นได้
4. ทำการจองไม่สำเร็จ : ต้องตรวจสอบและกรอกข้อมูลผู้จองให้เสร็จสิ้น และครบทุกขั้นตอน ไปจนถึงหน้าสุดท้ายของการ Confrim
5. การตรวจสอบจากผู้ให้บริการ: การจองที่ต้องรอการตรวจสอบจากผู้ให้บริการก่อนที่จะได้รับการยืนยันข้อแนะนำ ! กรุณาตรวจสอบความถูกต้องของที่อยู่อีเมล-เบอร์โทรศัพท์ ให้คุณทำการตรวจสอบที่กล่องอีเมล (รวมถึงกล่องขยะ)
หรือติดต่อผู้ดูแลเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานะการจองของคุณ
หากคุณมีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติมอื่น ๆ นอกจากคำถามข้างต้น หรือมีคำถามเฉพาะเกี่ยวกับการจองบริการ สามารถติดต่อเราได้ที่ :
โทรศัพท์ : [ 088-595-2673 ] คุณอาท
หรือส่งอีเมลไปที่ : [ [email protected] ]
สามารถติดต่อผ่าน Line OA [ คลิ๊กเพื่อไปยังแชทไลน์ ] เรายินดีให้ความช่วยเหลือและตอบทุกข้อสงสัยของคุณค่ะ!